แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - iammu

หน้า: [1] 2 3 ... 23
1


กล้องวงจรปิดปัจจุบันนี้ได้รับความนิยมสูงมาก ก็เพราะว่าเป็นสิ่งที่ช่วยเหลือให้สามารถตรวจจับสิ่งต่าง ๆ ที่เพื่อใช้เป็นหลักฐาน ยิ่งภาพชัดคมสวย หรือบางรุ่นมีเสียงให้ด้วยก็ดีงามสุด ๆ จะอย่างไรก็ตามกล้องวงจรปิดแบบ Wi-Fi นั้นมีหลาย ๆ คนเลือกใช้งานมาก จึงมีสิ่งที่ต้องทราบเอาไว้ด้วยว่าบางฟังก์ชันเป็นรูปแบบเฉพาะที่มีกับกล้องแบบ Wi-Fi เท่านั้น จึงสัมผัสได้ถึงความสนใจใช้งานมากกว่า

4 ฟังก์ชันที่กล้องวงจรปิดแบบ Wi-Fi มีให้โดยเฉพาะ
1. สามารถหมุนตัวกล้องผ่านแอปได้
สิ่งแรกเลยก็คือเรื่องของฟังก์ชันการหมุนตัวกล้องด้วยตนเอง ซึ่งจะเป็นการสั่งการผ่านแอปพลิเคชันเฉพาะของกล้องยี่ห้อนั้น ๆ เลย ทำให้สามารถจับตามองเห็นสิ่งรอบตัวกล้องได้ทุกมุม สร้างความสะดวกสบายในการใช้งานเยอะขึ้น ในเวลาไม่อยู่บ้านก็สามารถสอดส่องตรวจดูได้ตลอดเวลา บางรุ่นหมุนได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว นับเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก ๆ

2. สามารถสื่อสารโต้ตอบ 2 ฝั่ง ณ เวลานั้นได้
กล้องวงจรปิดไร้สายมีอีกรูปแบบที่จัดว่าน่าสนใจ ก็คือความสามารถในการโต้ตอบสื่อสารกันกับผู้ที่อยู่บริเวณกล้อง และผู้ที่ใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน ทำให้เราพูดคุยสอบถามกับคนในบ้านได้เลย เสมือนเป็นมือถืออีกเครื่องหนึ่งช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุที่มีโอกาสขึ้นได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะบ้านใดมีผู้สูงอายุ หรือเด็กซน แนะนำว่าให้ฟังเสียงที่ออกจากลำโพงก่อนดูว่าชัดเจนแค่ไหนก่อนพิจารณาซื้อ

3. ควบคุมได้จากโทรศัพท์ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็หมดห่วง
ฟังก์ชันในการควบคุมกล้องแบบ Wi-Fi นี้ยังน่าสนใจอีกอย่าง คือสามารถใช้มือถือที่มีแอปพลิเคชันสั่งการ ควบคุมต่าง ๆ ได้จากระยะไกลไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนของโลกก็ตาม อาทิเช่น หันซ้ายขวา บันทึกเป็นทั้งภาพวิดีโอและเสียง หรือแค่วิดีโออย่างเดียว ฯลฯ ใครไม่ค่อยอยู่บ้าน ต้องออกไปต่างจังหวัด หรือต่างประเทศเป็นประจำ แนะนำว่าต้องมีเลยเชียว

4. มีระบบแจ้งเตือนผ่านโทรศัพท์มือถือทันทีที่เกิดเรื่อง
สุดท้ายคือเรื่องของการตรวจจับการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ที่บางรุ่นอาจทำไม่ได้ แต่กล้องวงจรปิด WiFi สามารถใช้งานระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวได้แบบออโต้ เมื่อมีอะไรเคลื่อนไหวก็จะส่งสัญญาณให้รู้ทันทีผ่านมือถือแจ้งเตือนเรื่องที่เกิดขึ้นแบบทันใจ หากใช้เป็นรุ่นที่มีเสียไซเรนด้วยก็จะทำให้มิจฉาชีพตกใจขวัญกระเจิงแน่นอน

จะอย่างไรก็ตาม เราจำเป็นต้องดูข้อมูลอื่น ๆ ที่กล้องวงจรปิดแบบ Wi-Fi ควรมีอยู่อีก ได้แก่ ความละเอียดที่จับภาพ บันทึกวิดีโอ หรือบันทึกเสียงที่ควรชัดเจนมาก ๆ อย่างน้อยต้อง 1080p หรือ Full HD ไปเลย เพื่อให้มองเห็นสิ่งต่าง ๆ ชัดเจน หรือมีปัญหากลับมาย้อนดูก็จะเห็นภาพชัดเจนด้วยเช่นกัน เป็นหลักฐานที่มีประสิทธิภาพมาก ๆ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/TOO020302  

2


เบื่อกับพื้นเดิม ๆ จะพื้นปูน หรือพื้นดินก็ตาม อยากหาอะไรมาทำให้น่าสนใจมากขึ้น แนะนำเลือกหญ้าเทียมแบบม้วนดู รับรองว่าปูทีเดียวได้พื้นใหม่ขึ้นมาทันใจ เสมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ แต่ด้วยความที่เป็นมือใหม่หัดปูไม่รู้จะเลือกยี่ห้อไหนดี ไม่ต้องเป็นกังวลไป เนื่องมาจากเรารวบราวมาให้เลือกบอกเลยว่าดี ๆ ทั้งนั้น ตัดสินใจได้ไม่ยาก

4 หญ้าเทียมชนิดม้วน เปลี่ยนพื้นเดิม ๆ ให้สวยเป็นธรรมชาติ
1. หญ้าม้วนมนิลา SPRING (U) SOFT
มาช่วยทำให้พื้นเป็นสีเขียวชอุ่มกันดีกว่า ด้วยแบรนด์ชั้นนำ SPRING (U) SOFT ที่เสมือนหญ้าจริงมาก ปูแล้วได้พื้นเขียวชอุ่มราวกับอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ไม่ต้องรดน้ำ ใส่ปุ๋ย หรือดูแลอะไรเลย ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ซื้อทีเดียวเอาอยู่ วัสดุรองพื้นทนทาน แข็งแรง ไม่ฉีกขาดง่าย มาพร้อมรูระบายน้ำ ฝนตกแค่ไหนน้ำก็ไม่ขังในหญ้า ขนาด 25 มม. 2 x 25 ม. ราคาขายเพียง 24,000 บาทเศษ

2. หญ้าม้วนมนิลา SPRING (C-SHAPE)
หญ้าเทียมปูพื้นเสมือนจริงแบรนด์เดิมนี่แหละ แต่มีความแตกต่างอยู่นิดหน่อย คือ มีความแข็งแรงทนทาน ไม่ฉีกขาดง่ายแน่นอน มีความทนทานต่อแสงแดด เหตุเพราะหญ้ามีส่วนผสมของ UV Resistance ไม่ต้องรดน้ำ ไม่ต้องใส่ปุ๋ย ตัดเล็มอะไรเลย แต่ยังคงเขียวชอุ่มตลอดปี ปรับภูมิทัศน์ให้ออกมาแปลกตา จากพื้นเดิม ๆ ที่น่าเบื่อ กลายเป็นธรรมชาติสุดพลัง มีรูระบายน้ำ ไม่ทำให้น้ำขังหญ้าไปอีก ขนาด 30 มิลลิเมตร 2X3 ม. ราคาจำหน่าย 3,500 บาทเท่านั้น

3. หญ้าม้วนมนิลา ME LIVING
หญ้าม้วนมนิลาแบรนด์ต่อมา ME LIVING สามารถนำมาใช้ปูตกแต่งพื้นให้กลายเป็นธรรมชาติ มองไปแล้วสบายตาสุด ๆ สามารถติดตั้งได้หลายรูปแบบ จะเป็นสนามเด็กเล่น หรือตกแต่งสวนสวย ๆ งานตกแต่งผนัง หรือสนามกอล์ฟได้เลย มีความแข็งแรงทนทาน มีรูช่วยระบายน้ำไม่ทำให้น้ำขังหญ้า ทนทานต่อแสงแดดเนื่องด้วยมีสาร UV Resistance ดูแลรักษาง่าย เนื่องจากไม่จำเป็นต้องรดน้ำ ไม่ต้องใส่ปุ๋ย ไม่จำเป็นต้องตัดเล็ม ช่วยให้ประหยัดเงินไปอีกขั้น ขนาด 35 มิลลิเมตร 2X1 ม. โดยเป็นหญ้าเทียม ราคา 26,000 บาทเศษ

4. หญ้าม้วนมนิลา ME LIVING BIO
ปิดท้ายหญ้าที่ดีที่สุดอีกรุ่น ช่วยตกแต่งพื้นสร้างความสวยงาม ไม่จำเป็นต้องดูแลรักษามาก วัสดุทำจากพลาสติกคุณภาพ นุ่มนิ่มไม่ขาดตัว นอนเล่นได้ แข็งแรง ทนทาน ปัญหาฉีกขาดง่ายไม่เกิด ทนต่อแสงแดดได้เพราะสาร UV Resistance เป็นส่วนผสม ฝนตกก็ไม่ต้องกลัวเนื่องจากมีรูระบายน้ำช่วย ขนาด 15 มม. 2X1 ม. ราคาหญ้า 17,000 บาทเศษ

ความจริงหญ้าเทียมไม่ได้มีแค่แบบม้วนเท่านั้น แต่ยังมีเป็นแบบแผ่นที่เอามาปูต่อกันซึ่งราคาก็จะถูกลง เนื่องด้วยคิดเป็นแผ่นตามขนาด เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้ต้องการปูพื้นทั้งหมด อยากได้นิด ๆ หน่อย ๆ หวังว่าการมีหญ้ามาปูอย่างนี้จะทำให้บ้านของท่านน่าอยู่มากขึ้น

เข้าชมเว็บไซต์ได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/OUT0401

3


เมื่อเอ่ยถึงกล่องกระดาษขึ้นมาแล้ว พ่อค้าแม่ค้าโดยเฉพาะคนขายของออนไลน์คงสนใจขึ้นมาทันที ทั้งนี้เพราะถือว่าเป็นอุปกรณ์ทำมาหากินที่ควรต้องให้ความสำคัญ ยิ่งถ้ากลุ่มกล่องพัสดุไปรษณีย์ก็ต้องยอมรับว่ามีให้เลือกหลากหลายขนาด และหลากหลายความพิเศษ แต่ทำไมถึงควรนำมาใช้งาน ลองมาหาคำตอบกันเลยดีกว่า

ความพิเศษของกล่องกระดาษไปรษณีย์
บางคนอาจจะไม่เคยทราบถึงการเลือกกล่องกระดาษส่งพัสดุว่าสำคัญแค่ไหน ทั้งนี้เพราะคิดว่าแบบไหนก็เหมือนกัน ทั้งที่จริงแล้วต้องบอกว่ามีหลายลักษณะที่คุณอาจไม่ทราบถึงความพิเศษ หรือมองข้ามไปได้ ดังเช่น กล่องไปรษณีย์ที่มีรูปแบบต่าง ๆ เยอะพอสมควร ทั้งเรื่องขนาด ความหนาของกล่อง รวมถึงวัสดุที่ใช้ทำ น้ำหนัก ความสะดวกสบายต่อการใช้งาน ความแข็งแรงโดยเฉพาะเกรดกระดาษสีน้ำตาลธรรมชาติที่แข็งแรงทนาน เน้น Recycle 100% โดยจะเรียกว่ากระดาษสีน้ำตาลธรรมชาติ KT  ฯลฯ

แน่นอนว่าเราในฐานะพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องส่งของถึงมือลูกค้าควรใส่ใจเลือกเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดมาใช้งาน ยิ่งไปกว่านี้ เรายังสามารถเอามาประยุกต์ใช้ได้หลายครั้งเลยด้วย เป็นการประหยัดทรัพยากรโลกไปอีก ที่สำคัญยังเป็นกล่องที่ปลอดภัยจากธรรมชาติ ทั้งนี้เพราะมีมาตรฐานระดับสากล FSC คุ้มครองดูแล และอีกหนึ่งความพิเศษคือจะมีที่อยู่ผู้รับ และผู้ส่งให้ได้เขียนกรอกรายละเอียดไว้อย่างชัดเจน พร้อมช่วยให้ดูสวยงามสะอาดตาไปอีก

แนะนำกล่องประเภทไปรษณีย์แพ็คของ
กล่องแบบไปรณีย์ ต้องยอมรับว่ามีให้เลือกหลากไซซ์มาก โดยจะขอพาไปทำความรู้จักหลัก ๆ 2 ตัวเลือกสุดเจ๋ง คือ
- กล่อง MPC มีให้เลือกเยอะ ตัวกล่องไปรษณีย์ขนาดกำหนดตั้งแต่ A, B, C, D ซึ่งความกว้างจะวัดหน่วยเป็น ซม. มีขนาดต่างกันซึ่งจะใช้โค้ดตัวอักษรภาษาอังกฤษ (A = ขนาดเล็กสุด D = ขนาดใหญ่สุด) ระบุเอาไว้
- กล่อง PACK IN มีความแข็งแรงทนทานมาก ทั้งนี้เพราะใช้เป็นกระดาษ KA ลูกฟูก 5 ชั้น น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้สะดวกสบายไม่ต้องขนให้ปวดหลัง

นอกจากที่จะเป็นกล่องแบบติดสก๊อตเทปปิดเรียบร้อยแล้ว จริง  ๆ ก็ยังมีแบบกล่องฝาครอบด้วย โดยตัวกล่องจะทำจากวัสดุลูกฟูก ประกอบง่าย ใช้เก็บของ น้ำหนักเบา ขนย้ายสะดวก พร้อมช่วยประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ ทั้งนี้ เรื่องของขนาดก็จะมีแตกต่างกันออกไป เช่น ขนาด 36.8X42.2X30.5 ซม., ขนาด 31 X 36 X 26 ซม., ขนาด 40x45x35 เซนติเมตร ฯลฯ

ในการแพ็คสินค้าส่งลูกค้านั้นนอกจากเรื่องของกล่องกระดาษที่ต้องดีมีคุณภาพแล้ว ก็ต้องมีตัวช่วนอื่น ๆ ที่ลดปัญหาสินค้าเสียหายชำรุดด้วย ไม่ว่าจะเป็น กระดาษลูกฟูก, บับเบิ้ล หรือไม่มีจริง ๆ ก็เอาหนังสือพิมมาขยำเป็นก้อนวางป้องกันการกระแทกก็ได้ หวังว่าการใช้งานทุกคนจะปลอดภัยลูกค้ารับไปแกะสบายใจไม่มีบ่นแน่นอน

สั่งซื้อสินค้าได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/HHP0801

4


เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าในชีวิตประจำวันของใครหลายคนเลือกใช้ “ทิชชู่เปียก” มากกว่ากระดาษเช็ดประเภทอื่นแล้ว ด้วยความน่าสนใจที่พร้อมทำความสะอาดได้หมดจดเพิ่มมากขึ้น และมีให้เลือกหลากหลาย มีส่วนผสมที่ตอบโจทย์ กระนั้นหากท่านใดที่สนใจอยากได้มาใช้งานบ้าง แต่ไม่รู้จะเลือกยี่ห้อไหน รุ่นใดดี แนะนำไปร้านสะดวกซื้อมองหา 4 รุ่นนี้ บอกเลยคุณภาพจัดเต็ม!!

มองหาทิชชู่เปียก มองหา 4 รุ่นนี้ได้คุณภาพจัดเต็ม
1. CELLOX
เริ่มต้นกันที่ยี่ห้อ CELLOX ที่จะใช้เป็นเทคโนโลยี Germ Clear Plus ที่พร้อมลดการสะสมของแบคทีเรียที่มาเกาะติดบริเวณสิ่งสกปรก โดยที่จะมีส่วนผสมที่เป็นน้ำมากกว่า ไม่มีแอลกอฮอล์ จึงไม่ค่อยระคายเคืองผิวมาก สัมผัสนุ่ม หนา เป็นความพิเศษที่พร้อมทำความสะอาดให้เราอย่างหมดจด แบบ 10 แผ่น ราคาถุงละ 29 บาทเท่านั้น

2. KLEENEX NATURAL REFRESHING
เป็นอีกกระดาษทิชชู่เปียกที่น่าสนใจเช่นกัน โดยที่จะผสมผสานว่านหางจระเข้ และแตงกวาด้วยกัน มีเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างนุ่มลื่น ด้วยกระดาษที่เป็นเยื่อบริสุทธิ์ได้จากธรรมชาติโดยตรง สามารถเช็ดทำความสะอาดที่ต่าง ๆ ได้เลยตามต้องการกลิ่นหอมมอบความสะอาดให้แบบสดชื่นขั้นสุด แบบ 10 ราคาถุงละ 25 บาทเท่านั้น

3. V CARE EXTRA HYGIENE
นับว่ามองหาแล้วต้องอยากให้มีเลย ด้วยคุณสมบัติที่น่าสนใจของ V CARE EXTRA HYGIENE ที่เนื้อผ้าสัมผัสนุ่ม ช่วยให้การเช็ดทำความสะอาดผ่านไปราบรื่นดี และยังฆ่าเชื้อโรคได้มากทั้งนี้เพราะมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม 70% มีน้ำมันแมคคาเดเมียออร์แกนิคมาเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว บรรจุภัณฑ์พกพาสะดวก กะทัดรัด จึงสะดวกต่อการใช้งาน ชนิด 10 ชิ้นราคาถุงละ 29 บาท ใครต้องการทิชชู่เปียกแอลกอฮอล์นี้อยู่ไม่มียี่ห้อนี้ไม่ได้จริง ๆ

4. DETTOL ANTI-BACTERIAL
ตบท้ายกันที่แบรนด์ DETTOL ANTI-BACTERIAL ที่พร้อมช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียได้ดีถึง 99.9% เลยทีเดียว ปลอดภัยมาก ๆเพราะว่าไม่มีสารฟอกขาว มีกลิ่นที่หอมสะอาด ทำให้หลังใช้งานไปแล้วรู้สึกสดชื่นขึ้นได้มาก เป็นกระดาษชนิดเปียกที่ใช้งานได้หลากหลายพื้นที่ จะเช็ดมือ โต๊ะกาแฟ เคาน์เตอร์ครัว อ่างล้างหน้า หรือในห้องน้ำได้หมดตามต้องการ ชนิด 45 แผ่น ราคาสุดคุ้มเพียงแค่ 120 บาท

และทั้งหมดนี้ก็เป็นทิชชู่เปียกที่เรารวบรวมมาแนะนำ พร้อมช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกต่าง ๆ ได้อย่างหมดจด ซึ่งแต่ละแบรนด์ แต่ละรุ่นก็จะมีลักษณะแตกต่างกันออกไป หลังแกะใช้งานกันแล้วแนะนำให้ผิดฝาจนสนิทป้องกันการเป็นแหล่งสะสมเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัสต่าง ๆ จากที่จะสะอาดกลัวว่าจะสกปรกได้ ทั้งนี้ ควรเก็บให้พ้นมือเด็ก เลี่ยงการใช้รอบดวงตา และไม่แนะนำให้เอาไปผสมกับน้ำยาฆ่าเชื้อ หรือผงซักฟอกใด ๆ เมื่อใช้เสร็จแล้วให้ทิ้งลงถังขยะเป็นการจัดเก็บมาตรฐานความปลอดภัย

แวะชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/HHP0215

5


กระดาษทิชชู่” เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เรามักใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อเช็ดสิ่งสกปรกต่าง ๆ โดยสามารถใช้ได้กับหลายพื้นที่ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน ซึ่งในห้องน้ำเองก็มีด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดีหากใครใช้เป็นกระดาษแบบม้วน ๆ จำเป็นต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้อย่างดี เพราะไม่อย่างนั้นอาจมีความเสี่ยงอาหารเป็นพิษได้

ใส่กระดาษทิชชู่แบบม้วนผิดวิธีระวังเสี่ยงอาหารเป็นพิษ
ในห้องน้ำนั้นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าปกติจะเป็นกระดาษชำระแบบม้วนใหญ่สวมเข้าไปยังกล่องใส่กระดาษซึ่งกล่องนี้จะติดกับผนัง ใช้งานได้สะดวก และปลอดภัย เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่ายังมีอีกหลายแห่งที่ยังใช้เป็นแบบกระดาษม้วนเล็ก ดึง ๆ เอาได้เหมือนกันโดยเฉพาะห้องน้ำสาธารณะ ทว่าหากใช้ผิดแล้วนั้นโอกาสที่จะเกิดอาการอาหารเป็นพิษมีสูงมาก

ถามถึงเหตุผลที่เป็นก็เพราะในห้องน้ำมีเชื้อ “อีโคไล” ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในระบบทางเดินอาหารส่วนลำไส้ ปนเปื้อนออกมาจากการอุจจาระ แล้วก็จะมาเกาะได้ตามร่างกายโดยเฉพาะมือแล้วดันไปหยิบอาหารใส่ปากกลืนลงไป ก็ทำให้เกิดอาหารเป็นพิษนั่นเอง ซึ่งกระดาษเช็ดในห้องน้ำจะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อนี้ได้ เพราะต้องนำมือไปสัมผัสดึงมัน การสวมใส่กระดาษกับแกนจึงมีความสำคัญมาก

วิธีการใส่ที่ถูกต้องควรเป็นอย่างไร
สำหรับวิธีการใส่กระดาษเช็ดในห้องน้ำ แนะนำว่าให้ใส่แบบคว่ำลง เพื่อที่จะดึงกระดาษจากด้านบนได้เลยทันที เนื่องมาจากกระดาษที่อยู่ฝั่งติดกับผนังของห้องน้ำ จะยิ่งมีโอกาสรับเชื้อแบคทีเรียที่กระจายตามห้องน้ำได้ง่ายมาก มีผลวิจัยจากมหาวิทยาลัย University of Colorado กับห้องสาธารณะ พบว่าทั้งหญิงและชาย มีแบคทีเรีย 19 กลุ่มด้วยกัน มักจะสัมผัสตามพื้น ที่จับก๊อก ลูกบิดประตู อุปกรณ์ใส่สบู่ในห้องน้ำ รวมทั้งกระดาษเช็ดด้วย

การใส่กระดาษกับแกนรองแบบคว่ำก็จะลดความเสี่ยงได้อย่างง่ายดาย ทว่าปัจจุบันไม่ได้มีแค่กระดาษแบบนี้แล้ว อย่างที่บอกมีแบบเป็นม้วนใหญ่พร้อมฝาครอบก็จะลดความเสี่ยงกระดาษสัมผัสเชื้อโรคได้ แต่กระนั้นก่อนใช้งานหากเห็นกระดาษห้อยออกมาจากฝาครอบ แนะนำว่าให้ฉีกส่วนที่ห้อยออกมาทิ้งไปก่อน

นอกจากนี้ เราสามารถพกของตัวเองไปได้ อย่างกระดาษเช็ดหน้าบรรจุในกล่อง พกพาง่ายแค่หยิบติดตัวเอาไว้ก็ช่วยลดความเสี่ยงปัญหาติดเชื้อจากแบคทีเรียต่าง ๆ ที่มองไม่เห็นอย่างมีประสิทธิภาพ

ถึงอย่างไร ยังมีอีกประเด็นที่มองข้ามไม่ได้เมื่อเราใช้กระดาษทิชชู่ในห้องน้ำก็คือการนำทิ้งลงชักโครกแล้วกดลงไป ซึ่งแท้จริงแล้วไม่ควรทำอย่างยิ่ง เนื่องมาจากกระดาษจะไปจุกอยู่แล้วทำให้ท่อตัน แม้ปัจจุบันจะมีแบบที่ทิ้งลงชักโครกได้แล้ว แต่เมื่อไปใช้ในที่สาธารณะเราไม่รู้ว่ากระดาษประเภทนั้นทิ้งได้ไหม เนื่องมาจากไม่มีฉลากผลิตภัณฑ์ให้อ่าน ทางที่ดีทิ้งลงถังขยะเถอะนะ

แวะชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/HHP0213

6


หากคุณเป็นผู้นึงที่รองเท้าเยอะมาก ไม่รู้จะเอาไปเก็บไว้ที่ไหนดี ก็อยากเสนอแนะที่เก็บรองเท้าซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น “กล่องรองเท้า – ชั้นวาง – ถาดใส่” ก็ตาม สามารถเลือกได้ตามความชอบเลยด้วย ว่าแล้วเราไปดูกันเลยดีกว่า เพื่อให้การเก็บรองเท้าของเราเป็นระเบียบ หยิบใช้ง่ายมากขึ้น

“กล่องรองเท้า – ชั้นวาง – ถาดใส่” ยี่ห้อไหนดีเลือกได้ทันใจ
1. STACKO HP5-0040
เริ่มต้นกันที่กล่องใส่รองเท้าแบรนด์ STACKO รุ่น HP5-0040 ขนาด 20.8x32.3x13.2 ซม. ทำจากพลาสติกที่แข็งแรงทนทาน คุณภาพดีมาก อายุการใช้งานก็ยาวนานด้วย มีฝาหน้าที่เปิด – ปิดได้ตามต้องการ จะวางทับซ้อนแค่ไหนก็ไม่แตก ชำรุด ช่วยป้องกันฝุ่นละอองได้ได้เป็นอย่างดี มีช่องสำหรับระบายอากาศให้ด้วย กลิ่นอับที่กังวล วางใจไปได้เลย เพิ่มความเป็นระเบียบให้อย่างดีที่สุด

2. กล่องแบบลิ้นชัก STACKO
กล่องต่อมาที่อยากแนะนำ จะเป็นลักษณะของกล่องที่เป็นลิ้นชักชักออกมาได้ ซึ่งจะมีขนาดที่เล็กกะทัดรัด เคลื่อนย้ายสะดวก ไม่เกะกะพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน วางซ้อนได้ 6 ชั้น หยิบจับใช้งานไม่ยาก เป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น ฝาหน้าจะมีความใสมองเห็นรองเท้าที่ใส่ไว้ได้ จึงช่วยให้การใช้งานง่ายมากขึ้น มองเห็นรู้เลยว่าเป็นคู่ไหน อยากใส่หรือเปล่า

3. ชั้นวางรองเท้า 3 ชั้น STACKO SHE15909
นอกจากกล่องรองเท้าใสที่ฝาหน้า หรือไม่ใส่ใด ๆ ก็ตาม ยังมีเป็นชั้นวางรองเท้าด้วย โดยเป็นแบบ 3 ชั้น รุ่น SHE15909 ที่จะเป็นโครงเหล็กคุณภาพดี ทนทาน แข็งแรง แต่น้ำหนักเบาทำให้เคลื่อนย้ายได้สะดวกมาก ช่วยทำให้รองเท้าคู่โปรดเป็นระเบียบจัดเรียงสวยงามมากขึ้น เหมาะสมกับพื้นอย่าง ห้องพัก หอพัก ที่พื้นที่ใช้สอยไม่มาก จะเอาไปวางทางเดิน หรือห้องแต่งตัวได้หมด

4. ถาดใส่รองเท้า KEYWAY PS-0046
ปิดท้ายกันที่ถาดใส่รองเท้า จาก KEYWAY รุ่น PS-0046 ที่จะใช้วัสดุการผลิตเป็นพลาสติกอย่างดี ช่วยให้เกิดความแข็งแรงทนทานอย่างที่สุด เอามาจัดวางรองเท้า แล้วเก็บเข้าตู้รองเท้าได้เลย สามารถเก็บได้ 3 คู่ โดยวางทับซ้อนกันได้มากกว่า 2 ชั้นขึ้นไป จึงค่อนข้างช่วยให้ประหยัดพื้นที่ใช้สอยมาก ๆ

เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็หวังว่าการเลือกซื้อ “กล่องรองเท้า – ชั้นวาง – ถาดใส่ของคุณ ๆจะได้รับการตอบสนองใช้งานได้อย่างดี เก็บแล้วช่วยเรื่องความเป็นระเบียบ การหยิบจับง่ายดายขึ้น ทำให้สะดวกต่อการหยิบรองเท้ามาสวม แต่เมื่อซื้อมาใช้งานแล้วก็อย่าลืมเรื่องการดูแลรักษาให้ดี ๆ ด้วย อย่างถ้าเป็นพลาสติกก็เอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดได้ คราบสกปรกไม่ยอมออกเอาน้ำยาล้างกล่องพลาสติกโดยเฉพาะมาใช้ก็ตามเช่นกัน ฯลฯ เพื่อถนอมอายุการใช้งานยาวนานเพิ่มขึ้น

เข้าชมเว็บไซต์ได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/HHP1205

7


ใครที่กำลังมองหาเก้าอี้ – โต๊ะพับแต่ไม่รู้จะเลือกยี่ห้อไหนดี ไม่รู้ว่ามีรุ่นไหนให้ใช้งานได้ดีบ้าง เอาเป็นว่าไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะว่าเรารวบรวมมาให้เลือกแบบจัดเต็ม คุณภาพสุดเจ๋ง ชนิดที่ได้ยินชื่อแล้วต้องรีบซื้อสินค้ามาใช้งานอย่างเร็วเลย ว่าแต่จะมียี่ห้อไหน รุ่นใดน่าสนใจบ้าง เรารีบไปดูกันดีกว่า

4 ยี่ห้อเก้าอี้ – โต๊ะพับ คุณภาพสุดเจ๋ง ซื้อใช้งานไม่ผิดหวัง
1. ยี่ห้อ New Storm
เริ่มต้นกันที่ยี่ห้อแรกกับ New Storm ที่มีให้เลือกหลากหลายมาก ทั้งโต๊ะแบบอเนกประสงค์สี่เหลี่ยม แบบอเนกประสงค์ทรงกลม หรือเก้าอี้แบบพับก็มีด้วยเช่นกัน โดยคุณภาพนั้นค่อนข้างดีด้วยวัสดุที่แข็งแรง ทนทานมาก โครงสร้างที่ขาก็เป็นเหล็กพ่นกันสนิมด้วย ยกตัวอย่าง โต๊ะอเนกประสงค์รุ่น BT-04J ราคาขาย 1,690 บาท, โต๊ะกลมอเนกประสงค์ HDPE NST-120R ราคาจำหน่าย 3,170 บาท, เก้าอี้พับรุ่น GC-81NW ราคาขาย 1,020 บาท

2. ยี่ห้อ HDPE
เป็นอีกยี่ห้อที่มีความน่าสนใจมาก ๆ เพราะว่ามีให้เราเลือกหลายขนาด มีการใช้สีฝุ่นอีพ็อกซี่ โครงขาเหล็กหนามาก ๆ ทนทานแข็งแรงขั้นสุด สามารถพับเก็บได้สะดวกมาก ลดพื้นที่การจัดเก็บได้ดี เคลื่อนย้ายสะดวก อาทิ โต๊ะอเนกประสงค์ FR-120 ราคาขาย 2,100 บาท, โต๊ะพับหวาย FR-62 ราคาจำหน่าย 1,350 บาท, HDPE 3 ระดับ SPRING ราคาจำหน่าย 1,690 บาท

3. ยี่ห้อ MC
อีกหนึ่งแบรนด์โต๊ะพับอเนกประสงค์ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยที่จะมีทั้งแบบมีที่นั่ง พนักพิง ที่วัสดุจัดทำเกรดพรีเมี่ยม ความยืดหยุ่นสูง ทนทานแข็งแรง วัสดุใช้โครงสร้างและขาเป็นเหล็กด้วย และมีสารป้องกัน UV ทนทานต่อฝน และแสงแดด อาทิ รุ่น MC-20C HDPE ราคาจำหน่าย 299 บาท, รุ่น MC-90SP ราคา 890 บาท

4. ยี่ห้อ Spring
สุดท้ายเป็นอีกแบรนด์ที่น่าสนใจมาก ๆ ทั้งนี้เพราะได้วัสดุที่จัดทำจากวัสดุอะลูมิเนียม ที่มีความทนทานแข็งแรง มีสารป้องกันสนิม น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้สะดวกมาก ๆ เพราะน้ำหนักเบา ใช้งานแล้วไม่ผิดหวัง อาทิเช่น รุ่น SPRING TRAVIS ราคา 2,490 บาท, 2 in 1 SPRING BASTIEN ราคา 15,900 บาท ที่มีทั้งโต๊ะผสานกับเก้าอี้ที่สามารถพับได้หมด, รุ่น SPRING TRAVIS เก้าอี้ปิกนิกแบบพับได้ ราคาเพียง 490 บาท, SPRING HDPE โต๊ะที่พับได้แบบไม้ ราคาขาย 2,390 บาท

แบรนด์โต๊ะพับ รวมทั้งเก้าอี้แบบพับได้เหล่านี้การันตีว่ามีคุณภาพสูงสุด พร้อมให้คุณได้นำไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะโต๊ะ หรือเก้าอี้ใช้งานได้หมดเลย แต่กระนั้นก่อนที่เราจะเลือกซื้อเลือกหาได้ก็ต้องมีการพิจารณาถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่มีด้วย ไม่ว่าจะคุณสมบัติของวัสดุที่ผลิต โครงสร้างขา ตัวล็อก การรองรับน้ำหนักที่เป็นแบบกระจายตัว ลักษณะการใช้ที่สามารถวางไว้ภายใน – ภายนอก ฯลฯ และข้อสำคัญอีกประการคือต้องดูแลรักษาให้ดีด้วย เพื่อให้การใช้งานผ่านไปได้ราบรื่นไม่ต้องเสียเงินเสียทองซื้อมาเปลี่ยนบ่อย ๆ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/OUT0607

8


อย่างที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันนั้นหม้อหุงข้าวที่เห็น ๆ กันอยู่นี้มีทั้งแบบธรรมดา และแบบดิจิทัล แน่นอนว่าทั้ง 2 แบบมีความต่างกัน และแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างก็ผลิตออกมาให้เลือกหลากหลาย หากคุณสนอกสนใจแต่ไม่รู้จะเลือกแบรนด์ใด รุ่นใดดี เรารวบรวมข้อมูลสำคัญมาบอกต่อ ทราบรายละเอียดดีก็เลือกซื้อเลือกหาได้คุณภาพ

แนะนำหม้อหุงข้าวแบบธรรมดา VS ดิจิทัล
แนะนำหม้อหุงแบบธรรมดา
- MANUAL TOSHIBA RC-T10CE หม้อหุงข้าวเล็กขนาด 1 ลิตร อะลูมิเนียมหนา 1 มม. ทนต่อความร้อนได้ดี วัสดุภายนอกแข็งแรง เหล็กเคลือบสี ทนทานสุด ๆ ราคาขาย 619 บาทเท่านั้น

- MANUAL SHARP KSH-H39 ขนาด 3.80 ลิตร กำลังไฟ 1,350 วัตต์ ระบบอุ่นเป็นแบบอัตโนมัติ มีระบบตัดไฟแบบ Thermostat สะดวกและปลอดภัยต่อการใช้งานแน่นอน ราคาจำหน่าย 1,730 บาทเท่านั้น

- MANUAL COCORU RC-016 ขนาด 1.2 ลิตร ตัวหม้อเคลือบสารกันติด ทำให้สะดวกต่อการล้างการทำความสะอาด หุง อุ่น ตุ๋น ต้ม นึ่ง แข็งแรงทนทาน กะทัดรัดเคลื่อนย้ายสะดวก ราคาจำหน่าย 599 บาท

- MANUAL MITSUMARU AP-1830 ขนาดความจุ 3 ลิตร กำลังไฟ 1,000 กำลังวัตต์ 220 โวลต์ หม้อด้านนอกเป็นเหล็ก แล้วด้านในจะเป็นอะลูมิเนียม มีระบบตัดไฟเมื่ออุณหภูมิสูงกว่าปกติด้วย Safety thermal fuse ราคาจัดจำหน่าย 1,120 บาทเท่านั้น

แนะนำหม้อหุงแบบดิจิทัล 
- DIGITAL HITACHI RZ-D18VF หม้อจะเป็นแบบอะลูมิเนียมระดับสูงขนาดความจุ 1.8 ลิตร ทนทานแข็งแรง มีโปรแกรมเมนูอัตโนมัติ 20 เมนู ออกแบบให้มีร่องนูนเพื่อกระจายความร้อน ข้าวสุกทั่วถึง ใช้ระบบไมโครคอมพิวเตอร์ช่วยควบคุมอุณหภูมิแม่นยำ ระบบ Double Cook หุงข้าวและทำอาหารได้เลย ราคาจำหน่าย 3,390 บาทเท่านั้น

- DIGITAL SHARP KS-COM10 แรงดันไฟฟ้า 220 โวลต์ 50 เฮิรตซ์ ใช้ระบบ Direct Access System กดครั้งเดียวปรุงเมนูอาหารได้ตามต้องการ สามารถตั้งเวลาปรุงอาหารได้ 24 ชั่วโมง ฝาหม้อด้านในมีแผ่นความร้อนทำให้ไอน้ำไม่หยดลงข้าว ทำให้ข้าวไม่บูดไม่เสียง่าย ราคาขาย 2,270 บาท

- DIGITAL PANASONIC SR-CN108WSN หม้อหุงข้าวไฟฟ้าดิจิทัลความจุ 1 ลิตร หม้อหนา 6 ชั้น 22 มิลลิเมตร มีจอ LED สีขาวเพื่อดูการใช้งาน บอกรายละเอียดอย่างชัดเจน ช่องไอน้ำถอดออกมาทำความสะอาดได้เลย เลือกทำอาหารตามเมนูอัตโนมัติที่มีให้ 16 เมนูตามต้องการ ราคาขาย 2,449 บาท

- DIGITAL TEFAL RK6011TH สำหรับครอบครัวขนาดเล็กอยากได้หม้อระบบดิจิทัลก็มีรุ่นนี้เลย ขนาดความจุ 0.7 ลิตร หม้อหนา 2 มม. ผิวเคลือบเซรามิค 6 ชั้น ข้าวไม่ติดหม้อ หน้าจอเป็น LED ปุ่มสัมผัส ด้วยเทคโนโลยี AiIจัดการ สะดวกต่อการใช้งาน ตั้งค่าหุงข้าวได้ 24 ชั่วโมง กำลังไฟ 350 วัตต์ ราคาจำหน่าย 2,590 บาท

นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของแนะนำหม้อหุงข้าวแบบธรรมดา VS ดิจิทัลที่เรารวบรวมมาฝาก คงจะช่วยให้การตกลงใจเลือกซื้อเลือกหาผ่านไปได้อย่างราบรื่น กระนั้นก่อนตกลงใจควรพินิจพิจารณาถึงองค์ประกอบต่าง ๆ ได้แก่ ความจุ ฟังก์ชันการทำงาน รวมถึงราคาด้วย เนื่องด้วยแต่ละแบรนด์ แต่ละรุ่นแตกต่างกันอยู่แล้ว

แวะชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP0810

9


ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเครื่องฟอกอากาศนั้นมีความสำคัญกับการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก จนกระทั่งมีการพัฒนาให้ตอนนี้สามารถพกพาห้อยคอได้ด้วย แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญเมื่อมีไว้ใช้งานแล้ว คือวิธีการดูแลเครื่องฟอกอากาศพกพาให้ดี ถูกต้องตามหลักการ เพื่อให้ใช้งานยาวนานมากขึ้น ใม่ต้องเสียเงินเสียทองซื้อใหม่บ่อย ๆ

วิธีการดูแลเครื่องฟอกอากาศพกพาให้ใช้งานยาว ๆ
1. ใช้ในพื้นที่ที่เหมาะสม
เริ่มแรกเลยก็คือเราเองนั้นจำเป็นต้องมีการปรับการใช้งานของเครื่องให้เหมาะสมด้วย โดยจะเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มากขึ้น เหมาะสมกับเครื่องที่มีความสามารถช่วยกระจายอากาศดี ๆ แต่ละพื้นที่ อาทิเช่น เครื่องที่มีเหมาะกับพื้นที่ 15 ตารางเมตร ก็ควรเลือกอยู่ในพื้นที่ที่มีขนาดประมาณนี้ ไม่ควรใหญ่เกินไป เหตุเพราะจะทำให้การใช้งานไม่ตอบโจทย์กับการดูแลตนเอง

2. แผ่นกรองต้องทำความสะอาดเสมอ
เครื่องฟอกอากาศแบบพกพาก็มีแผ่นกรองใช้งานด้วยเช่นกัน ปัจจัยสำคัญคือเราต้องทำความสะอาดแผ่นกรองให้ดี และเหมาะสม อย่างเช่น แผ่นแบบหยาบต้องเอามาล้างทำความสะอาด พิจารณาจากวัสดุ ถ้าเป็นฟองน้ำก็เอาไปซักได้เลย เป็นต้น เมื่อเราดูแลความสะอาดเรียบร้อย จะเท่ากับว่าปจัดการแหล่งสะสมเชื้อโรคไปแล้ว ใช้งานต่อได้ยาว ๆ

3. ปรับระดับการทำงานให้ดี
ต้องบอกก่อนว่าเครื่องช่วยฟอกอากาศนี้จะมีระดับการทำงานให้ปรับหลากหลาย เราสามารถเลือกระดับได้ตามคุณภาพของเครื่องที่มี อย่างเช่น เราควรปรับให้เครื่องมีระดับการทำงานสูงทั้งนี้เพราะบริเวณที่เราอยู่มีกลิ่นเหม็น ไม่สะอาด มีกลิ่นอับกลิ่นไม่พึงประสงค์เยอะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้เครื่องได้ดี

4. อย่าแกะสับเปลี่ยนชิ้นส่วนเอง
ไม่ควรสับเปลี่ยนชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่มีในเครื่องช่วยฟอกอากาศพกพาด้วยตนเอง เนื่องจากจะไปทำให้เครื่องเสื่อมสภาพได้ อย่างลืมว่าท่านไม่ใช่ช่าง ไม่มีความรู้ ให้เครื่องอยู่แบบเดิมจะดีที่สุด

5. เปิดใช้งานตามช่วงเวลา
สุดท้ายคือควรรู้เวลา และเปิดใช้งานเครื่องฟอกอากาศห้อยคอพกพาอย่างเหมาะสม อย่างเช่น เปิดเมื่อเดินทางไปไหนมาไหน พออยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีความเสี่ยงก็ปิดไปก่อนได้ หรือตอนนอนหลับ กลางคืนไม่ได้ไปไหนแล้วก็ปิดเครื่องไปเลย ไม่ควรเปิดทิ้งไว้ตลอดคืน เพราะว่าจะทำให้ตัวเครื่องทำงานหนักมากเกินไป แล้วก็จะเกิดปัญหาแบตเสื่อมสภาพได้

วิธีการดูแลเครื่องฟอกอากาศพกพาเหล่านี้เป็นวิธีเบื้องต้นเท่านั้น แต่ก็สามารถนำไปปรับใช้เลือกทำตามกันดู การันตีว่าจะมีเครื่องห้อยคอใช้งานพกพาไปไหนมาไหนอย่างสบายใจยาวนานมากขึ้น ตลอดอายุการใช้งานที่มี ปัจจุบันมียี่ห้อให้เลือกเยอะ ทั้ง JYE DOUGHNUT, SABAIDEE CARE, KB AIR MASK ยังไงก็ลองพิจารณาข้อมูลที่มีก่อนตกลงใจซื้อสินค้า

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/APP0203

10


เมื่อกล่าวถึง “เก้าอี้สนาม” ขึ้นมาแล้ว เราก็จะเข้าใจได้เลยว่าเป็นเก้าอี้ที่เอาไปตั้งแคมป์เท่านั้น ซึ่งนั่นก็เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ก็เพราะว่าที่จริงยังมีอีกหลายชนิด ในครั้งนี้เราจึงอยากพาทุกท่านไปทำความรู้จักให้มากขึ้น เพื่อการนำไปใช้ได้ตอบโจทย์มากขึ้น แล้วจะนำไปใช้งานในลักษณะใดได้บ้าง? ไปติดตามกับเราทางนี้ด่วน ๆ

4 การนำเก้าอี้สนามไปใช้งาน เลือกได้ตามต้องการ
1. ใช้สำหรับการตกแต่งบ้าน
อันดับแรกที่ไม่อาจมองข้ามไปได้ คือการเลือกเอามาวางตกแต่งประดับบ้านให้ดูมีลูกเล่นสวยงาม หรูหรา แปลกตา สร้างจุดเด่นให้กับบ้านได้ ยิ่งเลือกเป็นเก้าอี้ที่มีวัสดุตกแต่งสวยงาม แข็งแรงทนทาน เอามาวางไว้ในบ้านจะใช้งาน หรือเน้นความสวยงามอย่างเดียวก็ไม่มีปัญหา เพียงแต่ต้องไม่ไปขยับเปลี่ยนทิศทางไม่อย่างนั้นมุมองศาตกแต่งบ้านจะไม่เนี๊ยบอีกต่อไป

2. นำไปวางใช้งานนอกบ้านได้
ต่อมาคือสามารถเอาไปวางใช้งานนอกบ้านได้โดยไม่เกิดการชำรุด หรือพังเสียหาย แต่ต้องเลือกชนิดเก้าอี้ให้ดีด้วย เพราะว่าวัสดุบางอย่างก็เอาไปวางไม่ได้ อย่างเช่น เก้าอี้ไม้ทั่วไปถ้าถูกแดดนาน ๆ หรือถูกฝนก็จะเกิดปัญหาสีซีด ไม้ผุกร่อน ถูกปลวกแทะ หรือขึ้นสนิม ฯลฯ ด้วยเหตุนั้นถ้าจะให้แนะนำก็ควรเป็นม้านั่งสนามที่ทำจากไม้สักอันแข็งแรง ทนทานทั้งแสงแดดและฝน ไม่เกิดปัญหาแมลง หรือปลวกมายุ่งวุ่นวาย

3. ใช้นั่งพักผ่อนทั้งภายใน – นอกบ้าน
การนำไปใช้งานอีกอย่างคือการใช้เพื่อพักผ่อนโดยสามารถตั้งไว้นั่งเล่นนอนเล่นอ่านหนังสือ ดูทีวี หรือนั่งมองวิวต่าง ๆ ได้เลย แต่ก็อย่าลืมเลือกดูจากวัสดุที่ผลิตด้วย เหตุเพราะการวางพื้นที่แตกต่างในบ้าน – นอกบ้าน ก็จะมีสภาพอากาศต่างกันนั่นเอง เลือกที่เหมาะสมกับเราแล้วก็เหมาะกับลักษณะพื้นที่ แต่ถ้าอยากใช้ทั้ง 2 ประเภท ก็มีเก้าอี้ที่วางใน – นอกบ้านได้อย่างเก้าอี้หวาย

4. ที่นั่งสำหรับทานข้าว สังสรรค์ร่วมกัน
สุดท้ายเราสามารถเลือกซื้อเลือกหาเก้าอี้เพื่อมาร่วมวงนั่งทานข้าว สังสรรค์ต่าง ๆ ได้ ซึ่งปกติแล้วก็มีให้เลือกทั้งแบบมีพนักพิง และไม่มีพนักพิง แต่ไม่ว่าจะเลือกแบบไหนควรเน้นแข็งแรงทนทานเอาไว้ก่อน เพียงตรวจสอบวัสดุที่ผลิตให้ดี หลาย ๆ วัสดุรองรับน้ำหนักได้มากกว่า 100 กก. ก็มี จึงไม่ต้องกังวลใด ๆ เลย

  และทั้งหมดนี้ก็เป็นการเลือกนำไปใช้ของบรรดาเก้าอี้สนามที่มีหลากหลาย ใครคิดว่ามีความจำเป็นก็ลองซื้อมาใช้งานได้ แต่แนะนำว่าให้ไปลองนั่งเอง หรือวัดขนาดที่แน่ ๆ เลย เพื่อให้ทราบสัดส่วนการนำมาใช้งาน และจะได้นั่งสบายมีที่เหลือ ๆ หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคน

เข้าชมเว็บไซต์ได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/OUT060503

11


หากท่านเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาโรงเรือนเพาะปลูกแต่ไม่รู้จะเลือกชนิดไหน อย่างไรดี อีกทั้งบางแบรนด์ราคาก็แพงเกินเอื้อม อันที่จริงไม่ต้องเป็นกังวลไป ด้วยเหตุว่าเราได้รวบรวมมาไว้ให้แล้วรับรองว่าราคาจับต้องได้ พร้อมนำไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่จะมีรุ่นที่ถูกใจมากน้อยแค่ไหน ไปติดตามพร้อมกันเลยดีกว่า

5 โรงเรือนเพาะปลูกราคาไม่แพง ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ
1. SPRING GH-W0002 S
เริ่มต้นกันที่โรงเรือน SPRING GH-W0002 S ที่จัดเป็นโรงเรือนขนาดเล็ก ใช้เหล็กคุณภาพสูง ทำให้ทนทานต่อการสึกกร่อนได้เป็นอย่างดี ช่วยระบายอากาศ ไม่อับชื้น แสงแดดส่องถึงได้แบบรำไร ๆ ไม่เป็นปัญหาต่อการเพาะปลูกพืชผัก, ดอกไม้, ปาล์ม, ไม้ผลขนาดเล็ก, ยางพารา เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีชั้นวางที่มั่นคงมาก ง่ายต่อการบำรุงรักษา ราคาจำหน่ายประมาณ 990 บาทเท่านั้น

2. SPRING SS
กำลังมองหาโรงเรือนปลูกผักรุ่น SPRING SS น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยทำจากพลาสติกใสหนา มาพร้อมโครงสร้างเหล็กคุณภาพดี มีความทนทาน แข็งแรง มีความโปร่งสบายช่วยระบายอากาศได้เป็นอย่างดี แสงแดดส่องทั่วถึงเพราะเป็นพลาสติก PVC ทำให้ไม่เกิดการอับชื้น และช่วยป้องกันฝน แมลงต่าง ๆ รวมทั้งสภาพอากาศแปรปรวนได้เป็นอย่างดี ราคาจำหน่ายไม่ถึง 1,000 บาท

3. SPRING GH-W-0005 M-L SPR
โรงเรือนที่ช่วยให้การเพาะพันธุ์ต้นกล้าผ่านไปอย่างราบรื่น โครงสร้างเหล็กคุณภาพเกรดพรีเมี่ยม ไม่ทำให้เกิดการกัดกร่อน ระบายอากาศได้ดี ไม่ทำให้อับชื้นได้ง่าย แดดส่องถึงแบบรำไร ขนาดสม่ำเสมอ หรือสีสันของผลผลิตที่สดใหม่ช่วยได้อย่างดีเลยทีเดียว โดยสแลนด้านหน้าสามารถพับเก็บขึ้นไปได้ ราคาไม่ถึง 2,000 บาท

4. โรงเรือนปลูก 3 ชั้น GH-011 สีเขียว
มาต่อกันที่โรงเรือนขนาดเล็กกันต่อ โดยรุ่นนี้จะเหมาะสำหรับการปลูกต้นกล้าทุกชนิด หรืออยากได้โรงเรือนปลูกต้นไม้แบบกระถางโรงเรือนนี้น่าสนใจ ด้วยโครงสร้างที่แข็งแรง ทนทาน วัสดุเหล็กมีคุณภาพสูง ไม่สึกกร่อนง่าย สแลนสีเขียวช่วยลดการส่องแสงแดดได้ดี สามารถพับเก็บส่วนที่อยู่ด้านหน้าได้ ราคาจำหน่ายไม่เกิน 1,000 บาท

5. SPRING GH-003 สีเขียว
สุดท้ายขอยกให้รุ่น SPRING GH-003 สีเขียว ที่มีการใช้เหล็กทำโครงสร้างคุณภาพสูงมาก ไม่สึกกร่อนได้ง่าย แข็งแรงทนทาน มีชั้นเหล็กที่เปิดช่องว่างไว้ทำให้น้ำไหลผ่านไปได้ง่าย ไม่ท่วมขัง ไม่เกิดการอับชื้น ทำจากสแลนสีเขียว ด้านหน้าพับเก็บขึ้นได้ ลดการส่องแสงแดดถึงตัวผลผลิตได้ดี ราคาเพียง 1,700 บาทเศษ

หวังว่าหลังจากนี้เป็นต้นไปทุก ๆ คนที่ต้องการใช้โรงเรือนเพาะปลูกจะเกิดความเข้าใจในแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อมากขึ้น และสามารถเลือกหลังที่พอเหมาะกับพืชผัก หรือผลผลิตของเรามากที่สุด พร้อมช่วยให้สิ่งเพาะปลูกของเราเติบโตอย่างดี ที่สำคัญแต่ละหลังที่แนะนำราคาจับต้องได้อย่างที่บอกไว้ไปอีก

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/OUT0209

12


เอาใจคนที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟสามารถทำเองได้ง่าย ๆ รสชาติเหมือนออกไปซื้อมาจากร้าน แต่ประหยัดเงินมากกว่าก็คือการเลือกใช้งานแคปซูลกาแฟนั่นเอง ทว่าปัจจุบันเรานั้นสามารถเลือกใช้งานแบบรีฟิล หรือเติมผงกาแฟลงในแคปซูลทำซ้ำได้ด้วย ซึ่งหากท่านใดที่ยังไม่เคยรู้มาก่อน อยากศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม ก็ไม่รอช้าที่จะรวบรวมมาบอกต่อ เพื่อการใช้งานที่ราบรื่น

กาแฟแคปซูลคืออะไร มีจุดเด่นอย่างไร?
อธิบายให้เข้าใจก่อนเลยว่ากาแฟแคปซูล คือ การนำผงกาแฟบดละเอียดมาใส่เอาไว้ภายในแคปซูล ซึ่งบรรจุภัณฑ์ที่เห็นทั่วไปนี้จะทำจากอลูมิเนียม ส่วนการชงกาแฟจะคล้ายกับการชงแบบปกติ มีการใช้แรงดันน้ำมาช่วยดันผ่านผงกาแฟบดละเอียด
จุดแข็งคือจะมีกาแฟสดที่ทำเองได้ง่าย ๆ รสชาติใกล้เคียงกับร้านประจำ นอกจากนี้ ความบดละเอียดที่มีออยู่ในแคปซูลจะช่วยให้ได้ความสดใหม่ เพราะเก็บกลิ่นหอมอโรม่าของกาแฟไว้ได้อย่างดี ประหยัดอีกต่างหาก

แคปซูลกาแฟแบบรีฟิลตัวช่วยประหยัดค่าใช้งานได้มากขึ้น
ปัจจุบันมีการพัฒนามากขึ้น จึงเกิดเป็นแคปซูลแบบรีฟิล ที่มีข้อดีมากกว่าเดิมในด้านการประหยัดเงินที่เพิ่ขึ้น 2 เท่า พร้อมเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายมาก ไม่ต้องเสียเงินซื้อบ่อย ๆ เอากลับมาใช้ใหม่แทน ทั้งยังได้ชงกาแฟในเวลาที่ต้องการ เพลินกับยามเช้าอันแสนเงียบสงบ ไม่ต้องรอคิวนาน สามารถนำผงบดกาแฟละเอียดมาใส่ในแคซูลได้ด้วย

ฝาปิดก็ใช้เป็นแหวนซิลิโคน มีความกระชับ พลาสติกดีไซน์มาให้มีความต้านทานอุณหภูมิสูง อายุการใช้งานทนทาน ยาวนาน ทั้งนี้เพราะแผ่นกรองตาข่ายพลาสติกผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพ ช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ดี ที่สำคัญการทำความสะอาดของแคปซูลประเภทนี้ยังทำได้ง่ายมาก แค่ให้น้ำไหลผ่านก็ได้แล้ว และยังติดตั้งรวดเร็วสุด ๆ อย่างปัจจุบันกาแฟแคปซูล nespresso ก็มีแบบรีฟิลด้วย ซึ่งขอแนะนำวิธีการใช้งานง่าย ๆ คือ
- เติมผงกาแฟบดละเอียดลงในแคปซูล
- กดกาแฟบดเบา ๆ ลงในแคปซูล
- ต่อจากนั้นก็ทำการปิดฝาแคปซูลได้เลย โดยต้องปิดให้เกลียวเข้าหากัน ปิดให้แน่นที่สุด
- ใส่แคปซูลลงในเครื่องชงกาแฟให้เรียบร้อย
- หลังจากนั้นก็เปิดเครื่องทำกาแฟได้เลยทันที รับประกันว่าได้กาแฟที่มีรสชาติหอมถูกปากถูกใจแน่นอน

เครื่องดื่มอย่างกาแฟเป็นตัวช่วยชั้นดีให้กับวัยทำงาน เนื่องด้วยจะช่วยทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น ไม่ง่วง พร้อมทำงานระหว่างวันได้อย่างสบายใจ ยิ่งมีแคปซูลกาแฟแบบรีฟิลให้ทำเองง่าย ๆ ประหยัดเงินไปอีก แต่กระนั้นก็ควรเลือกดื่มในปริมาณที่เหมาะสม ต่อวันไม่ควรเกิน 2 แก้ว เนื่องมาจากในกาแฟมีคาเฟอีนอยู่ สะสมมาก ๆ อาจทำให้นอนไม่หลับได้เหมือนกัน

แวะชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/APP080202

13


เรื่องความสะอาดของตู้เย็นนับได้ว่ามีความสำคัญอย่างมาก และไม่ควรมองข้ามยิ่งใครใช้งานตู้เย็น Mitsubishi ไม่ว่าจะ 1 ประตู หรือ 2 ประตูควรต้องไร้กลิ่น ปลอดคราบต่าง ๆ ด้วย แต่คำถามคือจะต้องทำยังไงบ้าง เชื่อเหลือเกินว่าบางท่านอาจไม่เคยรู้มาก่อน คราวนี้จึงอยากจะมาแนะนำเคล็ดลับความสะอาดตู้เย็นที่เหมาะสม นำไปปรับใช้กันได้ตามต้องการ
เคล็ดลับความสะอาดตู้เย็น Mitsubishi ไม่รู้ไม่ได้!
1. จัดการกลิ่นอับในตู้เย็น
ไม่ว่าท่านจะมีตู้เย็น Mitsubishi 2 ประตู หรือแค่ 1 ประตูก็ตาม เรื่องกลิ่นเกิดขึ้นได้ทั้งสิ้น ด้วยเหตุนั้น จึงมีความจำเป็นต้องจัดการให้หมดไป วิธีแก้ไขง่าย ๆ คือ การใช้วัตถุดิบดับกลิ่นมาวางไว้ที่ด้านในตู้เย็น อาทิเช่น เบกกิ้งโซดา ถ่านไม้ หรือผงกาแฟ เมื่อตั้งทิ้งเอาไว้ 3 เดือน ค่อยเปลี่ยนครั้ง หรือจะใช้เป็นผลไม้ พืชสมุนไพรอย่าง มะนาว ส้ม มะกรูดมาวางไว้ที่ 1 – 2 สัปดาห์ก็ได้เช่นกัน

2. ทำความสะอาดด้านในแบบไม่ใช้สารเคมี
บางคนมีตู้เย็นที่สกปรก เศษอาหาร เศษผงต่าง ๆ เลอะติดเต็มไปหมด จำเป็นต้องนำตะแกรงวางรองชั้นต่าง ๆ มาทำความสะอาด นอกจากการเช็ดพื้นผิวด้านนอกตู้เย็นด้วยน้ำสบู่ หรือน้ำยาล้างจานแล้วก็ต้องจัดการด้านในด้วย และมีอีกผลิตภัณฑ์ล้างที่ผสมเองได้เช่นกันคือน้ำเปล่า + น้ำส้มสายชู จะช่วยจัดการคราบสิ่งสกปรกได้ดี ไม่เป็นอันตรายจากสารเคมีตกค้างแน่นอน

3. จัดการคราบดำฝังขอบยางได้ง่าย ๆ
คราบดำ ๆ ที่เกิดขึ้นกับขอบยางถ้าฝังแน่นลึกต้องทำความสะอาดให้หมดจด เราสามารถทำได้ด้วยการนำยาสีฟันที่ใช้งานกันอยู่ทุกวันนี้ช่วย โดยให้ทาทิ้งไว้บริเวณคราบขอบยางที่มีปัญหา 3 – 5 นาที จากนั้นก็เอาแปรงสีฟันมาขัด ๆ ดู รับรองว่าไม่มีคราบสกปรกดำ ๆ ติดอยู่อีกแล้ว

4. ป้องกันเชื้อราขอบยางไว้ก่อนได้
นอกจากเรื่องกลิ่น หรือการทำความด้านในแล้ว การป้องกันเชื้อราบริเวณขอบยางของตู้เย็น 2 ประตู Mitsubishi หรือ 1 ประตูเองก็สำคัญไม่แพ้กัน เราสามารถจัดการบรรดาคราบเชื้อราฝังตรงขอบยางลึกแน่นได้ง่าย ๆ เพียงแค่ใช้น้ำส้มสายชู หรือเบกกิ้งโซดาจัดการ อย่าลืมผสมในน้ำเปล่าแล้วเอามาเช็ดทำความสะอาดขอบยางได้เลย ไม่ทำให้เกิดเชื้อราเป็นจุดดำ ๆ ติดกวนใจ หากเป็นตู้เย็นที่เพิ่งซื้อมาให้ ก็สามารถทำความสะอาดป้องกันการเกิดเชื้อราไว้ก่อนได้ด้วย

การจัดการพื้นที่ที่มีอย่างจำกัดของตู้เย็นก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ แนะนำเอาใส่กล่องพลาสติกวางทับซ้อนหลาย ๆ ใบแบบไม่อัดแน่น ก็จะช่วยประหยัดพื้นที่ และยังไม่ทำให้เกิดคราบสกปรกที่มาจากอาหาร ผลไม้เลอะตู้ได้ด้วย ส่วนขวดน้ำดื่ม กระป๋อง ก็สามารถเอาคลิปหนีบกระดาษกั้นไว้ได้ ไม่ไหลมากองรวมกันมั่ว

เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/APP09?b=mitsubishi

14


ไหนใครในที่นี้ต้องการเลือกกระทะปิ้งย่างบ้าง? ถ้ายังเลือกไม่ได้เราขอแนะนำให้เลือกแบบ 2IN1 ทีมีทั้งกระทะปิ้งย่าง และหม้อต้มไปเลยรับประกันว่าความคุ้มค่ารออยู่ ทว่าจะมีแบรนด์ไหนน่าสนใจบ้าง เชื่อว่าคอหมูกะทะคงอยากได้คำตอบ และเราไม่พลาดรวบรวมมาให้เลือกซื้อเลือกหาเอาใช้งานกันแบบฟิน ๆ ถึง 5 ยี่ห้อไปเลย

5 กระทะปิ้งย่างแบบ 2IN1 เลือกซื้อเลือกหาเอาไปใข้งานใม่ผิดหวัง
1. LOCKNLOCK EJP511
เริ่มต้นกันที่ยี่ห้อแรกกับ LOCKNLOCK EJP511 ที่เป็นกระทะสามารถปิ้งย่างได้ และมีหม้อต้มด้วย วัสดุผลิตจากอลูมิเนียมคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ทนทาน แข็งแรงมาก มีสารเคลือบที่ไม่ทำให้อาหารติดอย่าง Non – Stick โดยกระทะสามารถปิ้ง ย่าง ผัดได้เลยตามต้องการ มีหม้อไว้ต้มระหว่างปิ้งย่างด้วย ปรับความร้อนได้มากถึง 5 ระดับ กำลังไฟ 1,200 – 1,400 วัตต์ ราคาที่ 1,000 บาทปลาย ๆ

2. AIKO AK-K3322H
เตาปิ้งย่างไฟฟ้าแบรนด์ต่อมาก็คือ AIKO AK-K3322H ราคาเครื่องละไม่เกิน 1,000 บาท โดยจะมีพื้นที่หน้าเตากว้างมาก มาพร้อมช่องช่วยระบายน้ำมันและถาดรองไม่ทำให้เลอะง่าย มีไฟเพื่อแสดงการทำงานอยู่ 2 ด้าน ถอดเอาปีกแยกออกได้ด้วย กำลังไฟอยู่ที่ 750 วัตต์ รองรับได้ทั้งย่าง และต้ม

3. NEWWAVE BBQ-1001
มาถึงกระทะอเนกประสงค์ 2IN1 ที่น่าสนใจและราคาถูกด้วย ก็เพราะว่าเครื่องละ 500 บาทเศษเท่านั้น กำลังไฟอยู่ที่ 1,000 วัตต์ มีการเคลือบสาร Non – Stick 2 ชั้นที่หน้าเตา ใครอยากย่างสเต๊กชิ้นใหญ่ก็ทำได้เลย หรือถ้าใครสนใจใช้หม้อก็มีความจุน้ำได้ 1 ลิตร พร้อมฝาแก้วครอบ อยากจะต้มชาบูหรือปิ้งย่างทำได้ในเวลาเดียวกัน การควบคุมเป็นแบบแยก 2 ฟังก์ชันไปอีก อยากเลือกใช้งานหม้อ หรือเตาตามสะดวก

4. MIZ AP-MC10
ยังไม่จุใจให้ไปอีกกับเตาหมูกระทะไฟฟ้า MIZ AP-MC10 กำลังไฟ 1,200 วัตต์ 220 โวลต์ หม้อต้มขนาดความจุ 1.4 ลิตร มีฝาแก้วปิดมาให้ ผิวหน้าเคลือบเป็นแบบ Coating ไม่ทำให้หน้าเตาติดเวลาปิ้งย่างหมูกะทะ สามารถปรับได้ 2 ระบบด้วยกันแบบยกหม้อ 1 ปุ่ม เตา 1 ปุ่ม ได้รับมอก. 1641-2552 มาด้วย ราคาถูกมาก ๆเครื่องละไม่เกิน 1,000 บาท

5. HANABISHI BBQ-11
ตบท้ายกันที่ HANABISHI BBQ-11 อยากจะต้ม ปิ้งย่างทำได้ในคราวเดียว ร้อนเร็วมาก ๆ กำลังไฟใช้ที่ 1,600 วัตต์ เลือกใช้ฟังก์ชันได้เลยจะต้ม หรือปิ้งย่าง เพราะแบ่งการทำงานแล้ว วัสดุมีเคลือบสารกันติด ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น ขอบกระทะหรือขอบเตาไม่สกปรก ราคาจำหน่ายเครื่องละไม่เกิน 1,000 บาท

เมื่อทราบเช่นนี้แล้วใครที่จะซื้อกระทะปิ้งย่างมาใช้งาน คงจะเลือกได้อย่างตอบโจทย์ ได้ประสิทธิภาพการทำงานแบบ 2IN1 วันไหนเบื่อ ๆ ปิ้งย่างก็มาต้มได้ หรือจะกินทั้งปิ้งย่างและต้มในคราวเดียวกันก็ได้อีก อิ่มท้องอิ่มใจ เงินในกระเป๋าไม่ฉีกด้วย เนื่องจากแต่ละเครื่องราคาถูกมากๆ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP0807

15


หลาย ๆ บ้านมีจอมอนิเตอร์กันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะโน้ตบุ้ก คอมพิวเตอร์ หรือโทรทัศน์ซึ่งหลาย ๆ ท่านใช้งานกันแทบจะตลอด 24 ชั่วโมง ถึงจะอย่างไรข้อสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ก็คือเรื่องของการทำความสะอาดที่ควรต้องเป็นไปตามหลักการที่ถูกต้อง ไม่ทำให้เครื่องมีปัญหา เสียหายชำรุด แต่จะต้องทำด้วยวิธีไหน ทำยังไง ไปร่วมไขข้อข้องใจเรื่องนี้พร้อมกันเลยดีกว่า

ทำความสะอาดจอมอนิเตอร์ด้วยวิธีที่ถูกต้องไม่ใช่เรื่องยาก
ท่านสามารถนำวิธีการทำความสะอาดหน้าจอที่ถูกต้องเหล่านี้ไปร่วมใช้ได้เลย ไม่ว่าจะจอโทรทัศน์ จอคอมพิวเตอร์ หรือจอโน้ตบุ๊กก็ตาม โดยวิธีการนั้นทำได้ง่าย ๆ คือ
1. ปิดเครื่องแล้วถอดปลั๊ก
เริ่มแรกเลยคือต้องสร้างความปลอดภัยก่อน ให้ปิดเครื่องต่าง ๆ ที่ต้องการทำความสะอาด โดยทำการถอดปลั๊กออกจากเต้าเสียบให้เรียบร้อย หรือถ้าท่านใดเสียบกับปลั๊กต่อก็ต้องถอดออกด้วยเช่นกัน อย่าประมาท

2. ใช้ผ้านุ่มแห้งมาเช็ด
หลังจากที่ถอดปลั๊กแล้ว ให้คุณใช้ผ้านุ่ม ๆ หรือที่เรียกว่าผ้าไมโครไฟเบอร์ (ผ้าที่ใช้เช็ดแว่นตา) มาเช็ดหน้าจอทำความสะอาด เพื่อเป็นการป้องกันไม่ทำให้หน้าจอเกิดริ้วรอยจากผ้าแข็ง ๆ มาขูด กรณีที่หน้าจอของใครมีคราบสกปรกติดฝังอยู่ เช็ดด้วยผ้าแห้งไมโครไฟเบอร์ไม่ได้ ให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดหน้าจอโดยเฉพาะมาช่วย ฉีดที่หน้าจอก่อนแล้วเอาผ้าไมโครไฟเบอร์นี่แหละเช็ดต่อไป ไม่ควรออกแรงถู ขัด กดใด ๆ ทั้งนี้เพราะจะส่งผลต่อจุดพิกเซลที่มีของหน้าจอได้

3. ใช้น้ำยาเช็ดจัดการคราบ
อย่างที่บอกไปคือนำน้ำยาทำความสะอาดโดยเฉพาะของจอ monitor ที่เป็นแบบสำเร็จรูปมาใช้ได้เลย แต่ถ้าไม่ได้ซื้อมาก็มีวิธีการทำน้ำยาด้วยตัวเองโดยให้นำน้ำมาผสมกับน้ำส้มสายชูอัตราส่วน 1 : 1 นำผ้าไปชุบแล้วบิดหมาด ๆ จากนั้นก็เช็ดคราบเปื้อนได้เลย ทำไปจนกว่าจะออกจนหมด
ข้อควรระวังเบื้องต้นในการทำความสะอาดหน้าจอ
แม้กระนั้น มีข้อควรระวังในการเช็ดทำความสะอาดหน้าจอที่ต้องรู้ด้วย คือไม่ควรใช้น้ำยาที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ เพราะจะไปทำลายสารเคลือบผิวที่หน้าจอได้ หรือมีรอยได้ง่ายอันเนื่องจากจากผิวหยาบมากเกินไป หรือคราบสกปรกที่เช็ดไม่ออกแล้วเอาน้ำยามาใช้ ไม่ควรฉีดพ่นไปที่จอโดยตรง เพราะว่าบางส่วนในน้ำยาจะไหลเข้าช่องว่างจอ ทำให้เกิดความเสียหายได้ รวมทั้งไม่ควรนำผ้าขนหนู หรือทิชชูมาเช็ด เนื่องด้วยอาจจะทำให้จอเกิดรอยจากผิวสัมผัสที่หยาบได้ง่าย

ท่านใดที่สนใจจะทำความสะอาดจอมอนิเตอร์หลังจากนี้คงจะทำด้วยวิธีการที่ถูกต้องได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว คุณสามารถนำไปปรับใช้ได้ทันที นอกจากนี้ ยังได้ทราบข้อควรระวังต่าง ๆ ที่ต้องหลีกเลี่ยงไปให้ไกล เพื่อให้การใช้งานจอหลังทำความสะอาดเสร็จต่อไปอย่างราบรื่น

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/TVA1101

16


หากท่านเป็นคนหนึ่งที่มีความสนใจเลือกซื้อแอลกอฮอล์แบบล้างมือมาใช้งาน อยากให้ศึกษาเรื่องของคุณสมบัติที่ควรมีแบบห้ามพลาดเด็ดขาด ด้วยเหตุว่าบางครั้งอาจไม่เอาใจใส่ได้จนทำให้การทำความสะอาดมือไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีประสิทธิภาพ แต่จะต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้างนั้น ใครใคร่อยากทราบแล้วไปติดตามกันเลยดีกว่า

4 คุณสมบัติของแอลกอฮอล์แบบล้างมือที่ห้ามพลาดเด็ดขาด
1. ช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ 99.9%
สิ่งแรกที่ไม่อาจมองข้ามไปได้เลยจริง ๆ คือความสามารถในการฆ่าเชื้อของผลิตภัณฑ์ล้างมือ โดยจะต้องกำหนดอัตราการฆ่าเชื้อให้ได้มั่นใจแล้วถึง 99.9% ด้วยเหตุที่ผู้ใช้อาจไปสัมผัสเชื้อโรค แบคทีเรีย หรือไวรัสโดยไม่รู้ตัว เมื่อล้างทำความสะอาดมือก็จะปลอดภัย สะอาดมากขึ้น

2.มี Alcohol ผสมอยู่ 72.4%
ส่วนผสมที่สำคัญอย่าง Alcohol ในผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นสเปรย์ หรือเจลแอลกอฮอล์ล้างมือก็ตาม ควรต้องมีผสมอยู่ 72.4% ซึ่งถือเป็นสัดส่วนมาตรฐานแล้ว ถ้ามากกว่านี้ก็จะทำให้ผิวแห้งง่าย ใครผิวบอบบางแพ้ง่ายก็เป็นปัญหาได้ หรือน้อยกว่านี้ก็จะไม่ได้มาตรฐานการล้างมือ  ก่อนซื้อควรดูสัดส่วนตรงนี้ให้ดี ๆ ด้วย

3. อ่อนโยนต่อผิวเด็ก และผิวแพ้ง่าย บอบบาง
เนื่องจากเราทุกคนหลีกเลี่ยงการใช้งานของสิ่งนี้ไม่ได้เลย อย่างนั้นจึงจำเป็นต้องเลือกที่มีส่วนผสมลดการเกิดอาการแพ้ ไม่อย่างนั้นจะเป็นผลเสียต่อผู้มีผิวแพ้ง่าย บอบบาง หรือผิวเด็ก แนะนำว่าก่อนซื้ออ่านส่วนผสมบนฉลากบรรจุภัณฑ์เสมอ แล้วการใช้งานจะผ่านไปราบรื่น ทั้งนี้หากรู้ตัวว่าผิวแพ้ง่าย บอบบาง หรือต้องซื้อให้ลูกควรมีประเภทที่เคยใช้งานแล้วตอบโจทย์ติดตัวไว้เลย ไม่อย่างนั้นเกิดไปใช้ของสาธารณะแล้วแพ้จะยุ่งเอานะ

4. ซึมแห้งไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ
ต่อให้คุณจะเลือกฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์ หรือเจลล้างมือก็ตาม เมื่อสัมผัสกับผิวแล้วต้องแห้งไวซึมลึกสู่ชั้นผิวไปเลย และต้องไม่เหนียวเหนอะหนะหรือทิ้งสารตกค้างใด ๆ ไว้ด้วย เพื่อไม่ทำให้เกิดความรำคาญใจเมื่อใช้งาน และลดความเสี่ยงที่จะเผลอเอาเข้าปากเมื่อใช้มือไปหยิบจับอาหาร ขนมต่าง ๆ

แอลกอฮอล์จัดอยู่ในหมวดผลิตภัณฑ์เพื่อสาธารณสุขแล้ว นอกจากเจลล้างมือ สเปรย์ฉีดพ่นก็ยังมีเป็นน้ำยาทำความสะอาดด้วย โดยจะใช้เพื่อทำความสะอาดพื้นผิวต่าง ๆ หรือสำลีชุบที่จะมีส่วนผสมที่มากกว่า 70% แผ่นเช็ดฆ่าเชื้อที่ช่วยให้เราเอาออกมาเช็ดสิ่งต่าง ๆ ได้ง่าย พกพาสะดวก รวมไปถึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นส่วนผสมสามารถใช้งานได้ อาทิเช่น น้ำยาบ้วนปาก ผลิตภัณฑ์ยาบางชนิด ฯลฯ ซึ่งหลังจากนี้ก็หวังว่าการเลือกซื้อเลือกหามาใช้งานเพื่อล้างมือของคุณจะมีประสิทธิภาพขั้นสุด ด้วยสถานการณ์โควิด - 19 ที่ยังคงต้องดูแลตัวเอง

เข้าชมเว็บไซต์ได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/HHP0613

17


ณ.ปัจจุบันโควิด – 19 นั้นมีแต่ดูจะทวีความรุนแรงต่อเนื่องไม่หยุด การสวมหน้ากากอนามัยจึงต้องทำอยู่สม่ำเสมอ กระนั้นข้อสำคัญที่ต้องรู้คือการเลือกใช้งานให้เหมาะรวมไปถึงสวมและถอดอย่างถูกต้อง รับประกันว่าจะช่วยลดความเสี่ยงติดเชื้อได้ง่าย ๆ แต่จะทำอย่างไรบ้าง บางคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนเอาเป็นว่าไปติดตามกันดีกว่า

หน้ากากอนามัยชนิดไหนเหมาะกับการป้องกันโควิด – 19
ในปัจจุบันจะมีหน้ากากสวมใส่กันได้ 3 รูปแบบ ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีความสามารถในการป้องกันที่ต่างกันออกไป โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจคือ
1. หน้ากากเพื่อกรองอากาศ
หน้ากากเพื่อกรองอากาศ หรือหน้ากากที่จัดอยู่ในกลุ่ม N95 – KN95 – FF – FFP2 จะช่วยป้องกันฝุ่นได้ รวมไปถึงช่วยบำบัดอากาศ ลดความเสี่ยงการปนเปื้อนต่าง ๆ ของผู้ที่สวมใส่ในบริเวณที่มีมลพิษ และสารที่ติดเชื้อ ก๊าซ ไอระเหยต่าง ๆ ความสามารถในการป้องกัน 99.97%

2. หน้ากากอนามัย
เป็นหน้ากากที่จะช่วยเรื่องการป้องกันสารคัดหลั่งที่มาจากการไอ จาม หรือป้องกันละอองฝอย ป้องกันผู้สวมใส่ที่มาจากการติดเชื้อจำพวกโรคทั่วไป ความสามารถในการป้องกัน 95.90%

3. หน้ากากแบบผ้า
สุดท้ายเป็นหน้ากากแบบผ้าที่จะช่วยป้องกันฝุ่นได้ต่างประเภทขึ้นอยู่กับผ้าที่นำมาทำ และช่วยป้องกันละอองฝอย แต่ก็ไม่สามารถป้องกันไมครอนเล็กกว่า 0.3 ได้ เพราะฉะนั้น หากจะสวมใส่แนะนำให้สวมทับแมสทั้ง 2 ประเภทที่กล่าวไปก่อน

วิธีสวม – ถอดหน้ากากที่ถูกต้องป้องกันโควิด – 19
- วิธีการสวมหน้ากากที่ถูกต้อง : ทำความสะอาดมือทั้งสองข้างก่อน จากนั้นก็หันด้านที่มีสีออกมา โดยหันด้านสีขาวเข้าหาใบหน้า จับสายแล้วสวมหู กดแกนโลหะลงที่สันจมูกโดยให้แนบกับใบหน้า แล้วดึงหน้ากากลงล่างถึงใต้คางเป็นอันเสร็จ

- วิธีถอดแมสปิดปากที่ถูกต้อง : เริ่มจากให้คุณ ๆล้างมือให้สะอาดก่อนอีกเช่นกัน และเลือกพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเท หลังจากนั้นก็ให้นิ้วมาเกี่ยวสายที่คล้องออกแล้วทิ้งลงถังขยะ ห้ามสัมผัสที่ด้านหน้าของหน้ากาก แล้วม้วนให้เป็นก้อนโดยเอาหูคล้องมามัดไว้ หลังจากนั้นล้างมือให้สะอาด หลังจากสัมผัสด้านหน้าของหน้ากากมาแล้ว

เราจำเป็นต้องระวังตัวเองให้มากเข้าไว้ ทั้งนี้เพราะโรคโควิด – 19 ยังคงติดต่อกันได้ง่าย ๆ อยู่ กระนั้นยังมีไอเท็มอื่น ๆ ที่ควรพกพานอกเหนือจากหน้ากากอนามัยก็คือ เจล/สเปรย์แอลกอฮอล์ที่เอาไว้ล้างมือหลังสัมผัสสิ่งต่าง ๆ รวมไปถึงตัวช่วยอื่นอย่างการอยู่ห่างกันมากกว่า 2 เมตร การไม่เข้าไปในพื้นที่สุ่มเสี่ยง แออัด กลับจากข้างนอกให้รีบอาบน้ำสระผมเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ทันที เชื่อว่าความเสี่ยงติดเชื้อจะเป็นไปได้น้อยที่สุด ยังไงก็ดูแลสุขภาพกันด้วย

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/TOO020106

18


การใช้งานผลิตภัณฑ์เดทตอลปัจจุบันมีความสำคัญอย่างมาก ด้วยสถานการณ์โควิด - 19 ที่แพร่กระจายอย่างต่อเนื่อง การทำความสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญ กระนั้นหากท่านไม่รู้จะเลือกซื้อเลือกหายังไงดี วันนี้เรามีผลิตภัณฑ์การันตีขึ้นแท่น BEST Seller ซื้อใช้งานปลอดภัย คุณภาพสูง แต่จะเป็นแบบไหนบ้าง ราคาขายเท่าไหร่ ไปติดตามพร้อมกันเลย

แนะนำผลิตภัณฑ์เดทตอล ขึ้นแท่น BEST Seller
1. น้ำยาฆ่าเชื้อ DETTOL ขนาดบรรจุ 5,000 มิลลิลิตร
เริ่มต้นผลิตภัณฑ์ BEST Seller อย่างยาฆ่าเชื้อ DETTOL 5,000 มิลลิลิตร ที่พร้อมช่วยฆ่าเชื้อได้ตามต้องการทั้งการเช็ดทำความสะอาดหลากหลายพื้นที่ พื้นผิว หรือจะเช็ดทำความสะอาดกับอุปกรณ์ต่าง ๆ เครื่องมือเครื่องใช้ภายในครัวเรือน นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยให้แผลที่ถูกแมลงสัตว์กัดต่อยสะอาดมากขึ้นได้ด้วย บรรดาเชื้อรา เชื้อโรค เชื้อไวรัสถูกกำจัดได้มากถึง 99% ราคาต่อแกลลอน 1,000 บาทเศษ (แต่หากเป็นปริมาณ 1,200 มล. ก็จะ 500 บาทนิด ๆ หรือปริมาณ 750 มิลลิลิตร ก็จะ 400 บาทหน่อย ๆ)

2. สเปรย์ช่วยฆ่าเชื้อ MORNING DEW DETTOL 450 มล.
ผลิตภัณฑ์สเปรย์ฆ่าเชื้อที่มาจาก Dettol อย่าง MORNING DEW DETTOL 450 มิลลิลิตร ใช้ง่ายดายมากก็เพราะว่าฉีดพ่นได้เลย จะช่วยยับยั้ง และฆ่าเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ได้มากถึง 99.9% ไม่ว่าจะมาจากห้องครัว ห้องน้ำ หรือฟูก ลูกบิดประตู ของเล่น หมอน ที่นอน ฝักบัว โถชักโครก คาร์ชีท รถยนต์ ตู้เสื้อผ้า ฯลฯ ที่เป็นจุดสำคัญต่าง ๆ ฉีดเช้า ๆ เสมือนกลิ่นดอกไม้หอมฟอกอากาศที่เป็นอยู่ให้สดชื่นได้มากขึ้น ราคาจำหน่ายต่อกระป๋องแค่เพียง 200 บาทเศษเท่านั้น

3. สเปรย์อเนกประสงค์ DETTOL 500 มิลลิลิตร
นอกจากจะเป็นสเปรย์แล้ว ก็จะมีแบบจับฉีดฟอกกี้ด้วย โดยรุ่นนี้จะช่วยฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ พร้อมกำจัดบรรดาคราบสกปรกที่มาเกาะจุดทำครัว ประกอบอาหาร เคาน์เตอร์ครัว โดยจะช่วยยับยั้ง ฆ่าเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ได้ถึง 99.9% ปลอดภัยต่อมนุษย์และสัตว์เลี้ยง ไม่มีสารฟอกขาว จึงใช้ทุกจุดที่ประกอบอาหารได้อย่างดี ราคาจำหน่ายเพียง 100 กว่าบาทเท่านั้น

4. สบู่ก้อน - เจล
เพื่อเป็นการดูแลรักษาความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ DETTOL นอกจากน้ำยาทำความสะอาดโดยตรงทั้ง 3 แล้ว จริง ๆ เราสามารถใช้สัมผัสกับร่างกายล้างสิ่งสกปรกออกจากมือได้อย่างง่ายดายและปลอดภัยมากขึ้น กับการเลือกสบู่ก้อน หรือสบู่เจลมาใช้นั่นเอง ราคาก็จะแตกต่างกัน เพราะถ้าเป็นชนิดก้อนจะมีราคาประมาณ 20 บาท แต่หากเป็นเจลก็ราว ๆ 90 บาท ขึ้นอยู่กับปริมาณ

ใครที่อยากมีผลิตภัณฑ์ช่วยทำความสะอาดบ้าน ทำความสะอาดมือ หรือร่างกายก็ตามคงจะรู้จักกันมากขึ้นว่ามีรูปแบบไหนบ้าง พร้อมเลือกซื้อเลือกหามาใช้งานได้อย่างตอบโจทย์ความถนัด แล้วบ้านที่เคยสกปรก หรือมีคราบติดเกาะจะกลับมาสะอาดในชั่วพริบตา และสุขภาพก็แข็งแรงปลอดภัย ไม่มีเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรีย ไวรัสไปอีก

เข้าชมเว็บไซต์ได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/HHP0609

19


หม้อทอด” จัดว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าทำครัวที่มีความสำคัญต่อการใช้ชีวิติประจำวันมากเช่นกัน ด้วยเหตุว่าช่วยให้การอุ่นอาหาร ทำอาหารสะดวกเพิ่มขึ้น ไม่ต้องกังวลใจเรื่องปัญหาสุขภาพที่เกิดจากน้ำมัน กระนั้นท่านใดที่อยากซื้อมาใช้งานอาจจะมีงบประมาณที่จำกัด แต่ไม่ต้องห่วงเนื่องจากวันนี้เรารวบรวมมาบอกต่อชนิดที่ซื้อใช้งานได้สบายในงบสบายๆไม่เกิน 5,000 บาท

หม้อทอดในงบไม่เกิน 5,000 บาท พร้อมใช้งานประสิทธิภาพดีงาม
1. NEWWAVE AF-351 4.5 ลิตร
เป็นหม้อทอดไฟฟ้าที่มีความจุได้ 4.5 ลิตร ใช้งานด้วยระบบลมร้อนที่จะมาช่วยทอดอาหารให้สุกทานได้สบายใจ มีความแข็งแรงทนทานด้วยวัสดุที่ทำมีคุณภาพสูง เลือกทำอาหารได้เองตามต้องการ นอกจากทอดแล้ว ยังอบ ปิ้ง ย่างได้แบบไม่ติดหม้อ รวมถึงสามารถตั้งเวลาการทำงานได้สูงสุด 60 นาที (1 ชม.) อุณหภูมิความร้อนปรุงอาหารได้ตั้งแต่ 80 – 200 องศาเซลเซียส ราคาเพียงเครื่องละ 1,000 บาทปลาย ๆ

2. TEFAL EY501D66 4.2 ลิตร
หม้อสำหรับทอดในงบไม่เกิน 5,000 บาทยี่ห้อต่อมายกให้กับ TEFAL EY501D66 4.2 ลิตร ที่เป็นการทำงานแบบ 2IN1 สามารถทำได้ทั้งการทดแบบไร้น้ำมัน และการย่าง เนื้อจึงมีความนุ่มชุ่มฉ่ำ ไม่มีควันมาวุ่นวายรบกวน สามารถควบคุมการทำอาหารใช้ช่วงเวลาที่ต้องการได้ โปรแกรมระบบหมุนปุ่ม มีอุณหภูมิความร้อนตั้งแต่ 80 – 200 องศาเซลเซียส มีเคลือบสาร Non – Stick ที่หม้อและตะแกรง จึงดูแลง่ายอาหารไม่ติด ราคาขายเครื่องละ 2,000 บาทปลาย ๆ

3. AIKO AK-7255 5.5 ลิตร
ขยับราคา และขนาดความจุขึ้นมาอีกนิดกับ AIKO AK-7255 5.5 ลิตร ในราคาเครื่องละ 3,000 บาทต้น ๆ สามารถปรับอุณหภูมิได้เลยตามต้องการตั้งแต่ 20 – 200 องศาเซลเซียส ช่วยให้เราสามารถทำอาหารได้ทั้งทอด อบ เบเกอรี่ ย่าง สามารถตั้งเวลาตั้งแต่ 0 – 60 นาที สะดวกต่อการใช้งาน ช่วยลดปริมาณของไขมันได้ถึง 70 – 80% นำหม้อทอด + ตะกร้าทอดถอดออกมาทำความสะอาดง่ายมาก

4. LOCKNLOCK EJF881GRY 7 ลิตร
ปิดท้ายกันที่ LOCKNLOCK EJF881GRY 7 ลิตร หม้อทอดไร้น้ำมันที่มีทั้งระบบนึ่งด้วยไอน้ำ และทอดด้วยลมร้อน สามารถคั่ว อบ ปิ้ง ย่าง ทอด นึ่ง หรือจะอุ่นก็ได้เช่นกัน ปรุงอาหารได้เลยง่าย ๆ ด้วย 8 โปรแกรมที่มี อุณหภูมิกำหนดให้ไว้ตั้งแต่ 80 – 200 องศาเซลเซียส เมื่อดึงตะกร้าออกระบบจะตัดไฟให้ทันทีเพราะมีฟังก์ชัน Auto Stop ราคาจำหน่ายเครื่องละ 4,000 บาทปลาย ๆ

ทั้งหมดนี้ก็เป็นบรรดาหม้อทอดที่รวบรวมมาให้เลือกในราคาประหยัด ซึ่งแต่ละเครื่องก็จะมีความโดดเด่นอันถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ทว่าในการใช้งานต้องระมัดระวังให้มาก ๆ โดยอยากแนะนำหลังการใช้งานควรปล่อยเครื่องทิ้งไว้ 30 นาที เป็นการระบายความร้อนแล้วจึงเช็ดทำความสะอาด ทั้งนี้ การเช็ดต้องใช้ฟองน้ำ หรือผ้านุ่ม จากนั้นตากลมในที่ร่มให้แห้งก่อนเสมอแค่นี้คุณ ๆ ก็สามารถใช้หม้อทอดได้อย่างยาวนาน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/APP080503

20


ท่านไหนที่กำลังมองหายี่ห้อของถังพ่นยาเพื่อนำไปใช้งานเกษตร พืชผัก หรือเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ ก็ตามได้อย่างตอบโจทย์ ในวันนี้เรามีมาแนะนำกับแบรนด์ Spring ที่อยากบอกว่าดีมากจริง ๆ แถมมีให้เลือกหลายรุ่นด้วย ว่าแล้วก็ลองไปติดตามดูกันเลย รับรองว่าคุณ ๆจะเลือกได้อย่างไม่ลังเล ไม่กลัวผิดพลาดใด ๆ

5 รุ่นขอแนะนำถังพ่นยาแบรนด์ Spring ที่ควรรู้
1. SPRING SX-16 16 ลิตร
เริ่มต้นกับเครื่องพ่นยาแบตเตอรี่ที่ทำมาจากพลาสติกหนา อัดอากาศเพื่อช่วยให้การฉีดน้ำเพิ่มแรงดันได้มากขึ้น น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย เคลื่อนย้าย และจัดเก็บได้สะดวก เหมาะสำหรับงานฉีดน้ำ รดน้ำต้นไม้ พืชผักต่าง ๆ โดยจะใช้เป็นแบตเตอรี่ส่งพลังงานจึงใช้งานได้ค่อนข้างง่าย

2. SPRING SP01508 – BU สีฟ้า 550 มิลลิลิตร
ไม่ได้มีแค่แบบถังพ่นเท่านั้น แต่ Spring ยังมีความน่าสนใจอย่างกระบอกฉีดด้วย ซึ่งผลิตจากวัสดุพลาสติกหนา มีความทนทานต่อการกัดกร่อนได้ดี ทนต่อแรงอัดบีบลม สามารถฉีดพ่นได้แบบต่อเนื่อง ไม่แตกร้าวง่าย น้ำหนักเบา ง่ายต่อการเคลื่อนย้ายและจัดเก็บ เวลาใช้งานก็จะสะดวกมากขึ้น แนะนำใช้ฉีดงานไม้กระถาง ไม้ประดับ พืชผักสวนครัวต่าง ๆ

3. SPRING SX-CS3A 3 ลิตร
เป็นอีกรุ่นของ Spring ที่ใช้งานง่ายอีกเช่นกัน เพราะจะมีเนื้อพลาสติกที่หนามาก ๆ อัดอากาศเพิ่มแรงดันเพื่อฉีดน้ำได้ ดีไซน์ออกแบบใช้งานสะดวก สวยงาม กะทัดรัด สะพายได้นาน เนื่องจากน้ำหนักเบา ไม่ปวดเมื่อย เหมาะสำหรับงานเกษตร ฉีดน้ำรดน้ำต้นไม้ พืชผักสวนครัว หรือพ่นยา พ่นปุ๋ยต่าง ๆ

4. SPRING SX-CS5 5 ลิตร
ถังฉีดพ่นยาของ Spring ที่มีขนาดความจุ 5 ลิตร อย่างรุ่น SX-CS5 นั้น จะทำมาจากพลาสติกเนื้อหนา อัดอากาศเพิ่มแรงดันในการฉีดได้อย่างดี เหมาะสมกับการทำงานแบบอเนกประสงค์ ที่ใช้รดน้ำต้นไม้ ฉีดน้ำพืชผักต่าง ๆ ใช้งานง่ายมาก จัดเก็บ เคลื่อนย้ายสะดวก เหตุเพราะน้ำหนักเบา รับรองว่าได้นำไปใช้งานแล้วจะตอบโจทย์อย่างแรง

5. SPRING SP01405 5 ลิตร
ปิดท้ายถังพ่นยี่ห้อ Spring ที่อยากแนะนำก็คือรุ่น SP04105 ต้องบอกคุณภาพเนื้อพลาสติกที่นำมาทำหนามาก แต่น้ำหนักเบา ทำให้การเคลื่อนย้ายผ่านไปได้ด้วยดี เหมาะกับการพ่นปุ๋ย ฉีดยา รดน้ำต้นไม้ พืชผักต่าง ๆ ใช้งานง่ายมาก พร้อมอัดอากาศเข้าไปเพื่อทำให้น้ำมีแรงดันมากขึ้น

เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็หวังว่าทุก ๆ คนที่ต้องการ หรือมองหาซื้อถังพ่นยาจะเกิดความเข้าใจ และสามารถเลือกรุ่นที่ตอบโจทย์ตัวเองได้มากทุสุด ด้วยรายละเอียดข้อมูลที่เรารวบรวมมาแนะนำนี้ แต่ละเครื่องบอกเลยว่าใช้งานง่าย ทำจากวัสดุดีมีคุณภาพ เคลื่อนย้าย/จัดเก็บได้สะดวก

ชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.homepro.co.th/c/OUT0208

หน้า: [1] 2 3 ... 23